กรมศุลกากร ตรวจยึด (ไอซ์) เตรียมส่งออกออสเตรเลีย มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

 กรมศุลกากร ตรวจยึด (ไอซ์) เตรียมส่งออกออสเตรเลียจำนวน 33.73 กิโลกรัม มูลค่าปลายทางกว่า 100 ล้านบาท

วันที่ 4 มิถุนายน 2568

กรมศุลกากร จัดงานแถลงข่าว การตรวจยึด (ไอซ์) เตรียมส่งออกไปประเทศออสเตรเลีย ซุกซ่อนมาในเครื่องกลึงโลหะ จำนวน 33.73 กิโลกรัม มูลค่าปลายทางกว่า 100 ล้านบาท

โดยมีนางนันท์ฐิตา ศิริคุปต์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร เป็นประธาน ร่วมด้วย นายเอกวุฒิ นาเอก ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นายพีรพงศ์ รำพึงจิตต์ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการข่าวและปราบปรามยาเสพติด 6 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พันตำรวจเอก ไพโรจน์ เขียวนรภัย ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรือโทศิรรินทร์ ชัยสินอัครยศ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเรือและสินค้า ท่าเรือกรุงเทพ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ 

ภาพ/ข่าว/เผยแพร่โดย : ส่วนสื่อสารองค์กร สลข.

เครือสหพัฒน์ ร่วมสนับสนุนเครื่องอุปโภค บริโภค ในโครงการจิตอาสา “ปันรัก เพื่อเด็ก และโรงเรียน

 เครือสหพัฒน์ ร่วมสนับสนุนเครื่องอุปโภค บริโภค ในโครงการจิตอาสา “ปันรัก เพื่อเด็ก และโรงเรียน 

เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2568  เวลา10:30 น.

พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่บางส่วนให้การต้อนรับ คณะตัวแทน บริษัทสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ที่ได้เดินทางมามอบสิ่งของพร้อมสนับสนุนเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อนำมาบรรจุใส่ถุงยังชีพและนำไปใช้ โครงการ กิจกรรมจิตอาสา “ปันรัก เพื่อเด็ก และโรงเรียน”

  โดยในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังเจ้าหน้าที่บางส่วน ทยอยบรรจุสิ่งของใส่ลงในถุงยังชีพ เตรียมความพร้อมนำไปมอบให้เด็กและโรงเรียนตามวัตถุประสงค์ ทางโครงการที่จัดขึ้น ครั้งนี้ 

************************************************

บิ๊กเผือก ผบช.ทท.สั่งระดมจับกุม-กวาดล้าง ผู้กระทำผิดกฏหมาย ใน 10 กลุ่มเป้าหมาย ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และทำลายความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยว

 บิ๊กเผือก ผบช.ทท.สั่งระดมจับกุม-กวาดล้าง ผู้กระทำผิดกฏหมาย ใน 10 กลุ่มเป้าหมาย ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และทำลายความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 08:00 น.วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2568 ( ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ) กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เลขที่ 999 หมู่ที่ 1 ถนนสุวรรณภูมิ 4 หนองปรือ อำเภอบางพลี สมุทรปราการ เผยว่า พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.ได้มีข้อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรมในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือกลุ่มแก๊งค์ ที่ก่อเหตุและทำผิดกฏหมายใน 10 กลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ในห้วงเวลา ระหว่างวันที่ 15 - 22 พฤษภาคม พ.ศ.2568 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จากทั่วประเทศ ได้ขานรับนโยบาย และมีผลปฏิบัติ ดังนี้

# ผลปฏิบัติบัติจากการจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมด จำนวน 4,928 ราย จับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ จำนวน 4,952 คน จาก 10 กลุ่มเป้าหมาย มีรายละเอียดดังนี้

[ กลุ่มที่ 1 ] พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ฯ / ทัวร์ด้อยคุณภาพ จำนวน 357 ราย จับผู้ต้องหาได้ 356 ราย

[ กลุ่มที่ 2 ] หลอกลวงให้ซื้อสินค้า/บริการ ที่ด้อยคุณภาพ และราคาสูงเกินจริง จำนวน

720 ราย จับกุมผู้ต้องหาได้ 730 คน

[ กลุ่มที่ 3 ] ยานพาหนะ เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว จำนวน 264 ราย จับกุมผู้ต้องหาได้ 264 คน

[ กลุ่มที่ 4 ] อาชญากรรมข้ามชาติ และต่างด้าวทำผิดกฎหมาย จำนวน 918 ราย จับกุมผู้ต้องหาได้ 930 คน

[ กลุ่มที่ 5 ] ยาเสพติดในแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 92 ราย จับกุมผู้ต้องหาได้ 94 คน

[ กลุ่มที่ 6 ] สถานบริการผิดกฎหมาย จำนวน 4 ราย จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน

[ กลุ่มที่ 7 ] จัดระเบียบการจราจร (ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ) จำนวน 1,346 ราย จับกุมผู้ต้องหาได้ 1,346 คน

[ กลุ่มที่ 8 ] มาตรฐานความปลอดภัยในวงจรการท่องเที่ยวและอุบัติเหตุ จำนวน 4 ราย

จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน

[ กลุ่มที่ 9 ] ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล มาเฟีย พกพาอาวุธบริเวณสถานที่ท่องเที่ยว จำนวน 9 ราย จับกุมผู้ต้องหาได้ 9 คน

[ กลุ่มที่ 10 ] คดีอาชญากรรมที่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว และความผิดอื่น ๆ จำนวน 1,214 ราย จับกุมผู้ต้องหาได้ 1,215 คน

     ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงเป็นการสร้งความเชื่อมั่นและสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ตำรวจท่องเที่ยวยินดีให้บริการ หากพบปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน

#CALLCENTER1155

#touristpoliceapp

#TouristPolice

#ตำรวจท่องเที่ยว

กรมศุลกากรบูรณาการหน่วยงานในสนามบิน จับกุมยาเสพติดเมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) 22 กก. มูลค่ากว่า 6.6 ล้าน

 วันนี้ (วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม 2568) เวลา 11.00 น.

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร พร้อมด้วยนายกิตติพงศ์ กิตติขจรผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

น.อ.ชนันนัทธ์ รอดกุล ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ต.นิวัติ พูนสินผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง (ฉก.333) พ.ต.อ.ทองรชฎ เหรียญสุวงษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมแถลงข่าว

 กรมศุลกากรร่วมกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จับกุมผู้โดยสารชายสัญชาติออสเตรเลีย ขณะพยายามลักลอบส่งออกเมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) มูลค่ากว่า 6.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยานนานาชาติ (Airport Interdiction Task Force: AITF) ประกอบด้วย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ณ Concourse A ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 

 Cr.: ส่วนสื่อสารองค์กร สลข.

ชมรมคนรักลิงหัวใจแกร่ง พร้อมเครือข่าย ร้องสื่อขอบ้านให้ลิงแสม

ชมรมคนรักลิงหัวใจแกร่ง พร้อมเครือข่าย ร้องสื่อขอบ้านให้ลิงแสม บางขุนเทียน หลังยื่นเรื่องร้องขอหลายภาครัฐแต่กลับเพิกเฉย

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568 เวลา 13:00 น.

 ณ. อนุสาวรีย์คุณกะลา ย่านบางขุนเทียน 

นางสาว กวิณภัสร์ มงคลเตชาพัฒน์ ประธาน ชมรมคนรักลิงหัวใจแกร่ง พร้อมเครือข่ายอนุรักษ์และแก้ไขปัญหาลิงแสมบางขุนเทียนร้องสื่อมวลชนขอบ้านให้ลิงแสมบางขุนเทียนพร้อมมอบอาหารซึ่งเป็นผลไม้และน้ำดื่มให้กับลิงแสม ที่มีอยู่กว่า 300-400 ตัว อีกทั้งพาสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตบางขุนเทียน เจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรและธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ดูสภาพความเป็นอยู่ของลิงแสมบางขุนเทียน 

นางสาว กวิณภัสร์ กล่าวว่า “เจ้าของที่ดินที่ลิงอาศัยอยู่ขณะนี้เอาที่ดินคืนโดยทำการรื้อป่าที่ลิงอาศัยอยู่ออกจนโล่งเตียน แต่ในปี พ.ศ 2550 กรุงเทพมหานครได้ซื้อที่ดินจากชาวบ้านกว่า 12 ไร่ และออกฉโนดให้เป็นที่อยู่อาศัยของลิงแสมบางขุนเทียนแต่ที่ดินพื้นที่ 12 ไร่ ไม่เคยได้รับการพัฒนาจากกรุงเทพมหานคร หรือจากสำนักงานเขตบางขุนเทียนเลย ทำให้บางฝูงออกนอกพื้นที่สร้างความเดือดรัอนให้กับชาวบ้านใกล้เคียง 

จึงมีแนวคิดพัฒนาพื้นที่ทั้ง 12 ไร่ นี้ให้เป็นบ้านของลิงแสมฝูงสุดท้ายของเขตขางขุนเทียน และนำลิงมาอยู่รวมกันทั้งหมดและต่อยอดพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างงานสร้างอาชีพให้คนในชุมชน“

นางสาว กวิณภัสร์ ยังกล่าวอีกว่า ”ที่ผ่านมาหลายหน่วยงาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. เทียนทะเล ช่วยกันลงพื้นที่ดูแลความเป็นอยู่ และความปลอดภัยของลิงแสมเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องอาหารเป็นหน้าที่ของตนที่ซื้อมาเลี้ยงทุกวัน การเดินหน้าร้องของบประมาณจากทุกหน่วนงายที่เกี่ยวข้องเป็นเวลานานหลายปี ไม่ได้รับการตอบรับโดยเฉพาะ หน่วยงานกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว

ทำให้ทางกลุ่ม รวมทั้งชาวบ้านย่านบางขุนเทียนต้องรวมกันร้องสื่อมวลชนหวังให้เป็นกระบอกเสียงผ่านไปยังภาครัฐ เพื่อพิจารณางบประมาณในการสร้างบ้านให้ลิงแสมเหล่านี้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและยั่งยืน“

ภาพ / ข่าว

นุท นันท์ลภัส