👇👇👇👇👇👇👇

Translate

....

เพลงข่าวสารดี

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าว อาชญากรรม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าว อาชญากรรม แสดงบทความทั้งหมด

ตำรวจฟินแลนด์เข้าพบDSI ติดตามความคืบหน้าทางคดีกรณีที่กล่าวหาอดีต รมต.และข้าราชการระดับสูงของกระทรวงแรงงานไทย กรณีที่มีการค้ามนุษย์แรงงานข้ามชาติ



 เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๐๐ น. สำนักงานสอบสวนกลาง NBI และเจ้าหน้าที่ตำรวจฟินแลนด์ เดินทางเข้าพบอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ DSI



เพื่อติดตามความคืบหน้า จากกรณีที่สำนักงานตำรวจกรุงเฮลซิงกิ และสำนักงานสอบสวนกลาง NBI หน่วยรักษาความปลอดภัยชายแดน ร่วมกันสืบสวนสอบสวนจากกรณีที่พบว่ามีการค้ามนุษย์ในบริเวณบริษัทเบอร์รี่แห่งหนึ่งของประเทศฟินแลนด์ จนมีการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน ๒ ราย ฐานค้ามนุษย์ ในเรื่องนี้ผลการสืบสวนได้เน้นไปที่บริษัทแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของฟินแลนด์ และบริษัทไทยที่ได้รับสมัครคนงานไปเก็บเบอร์รี่ ที่ฟินแลนด์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มของประเทศนอร์ดิก และในเรื่องนี้ประเทศฟินแลนด์ ถือว่าคดีนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่และสำคัญมาก มีผลกระทบต่อความมั่นคง ความเชื่อมั่นในระดับภูมิภาคยุโรป เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายในกลุ่มของประเทศนอร์ดิกด้วยกัน

             เจ้าหน้าที่ตำรวจฟินแลนด์ได้ทำการสืบสวนขยายผลจนพบว่ามีการค้ามนุษย์แรงงานไทยจริงที่มาเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ ในห้วงระหว่างปี 2563 – 2565 จนกระทั้งศาลได้มีคำพิพากษาจำคุกผู้ต้องหาดังกล่าว ได้แก่ นายJukka Kristo CEO ของบริษัท Polarica ซึ่งเป็นบริษัท จัดหาผลไม้เบอร์รี่ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ และนางสาวกัลยากร พงษ์พิศ

 ต่อมาสำนักงานสอบสวนกลาง NBI และเจ้าหน้าที่ตำรวจฟินแลนด์ ได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI โดยกองคดีการค้ามนุษย์ ได้ทำการสืบสวนและสอบสวนกรณีนี้จนกระทั้งทราบว่ามีผู้เสียหายมากกว่า 1,000 ราย จากการถูกเรียกเก็บเงินค่าหัวคิว และมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนหลายราย ที่มีการกล่าวหาข้าราชการระดับสูงในกระทรวงแรงงาน นักการเมืองระดับชาติ ที่เป็นถึงอดีตรัฐมนตรีในประเทศไทย 

   ในการนี้ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ได้ให้การต้อนรับและเข้าร่วมประชุมแจ้งผลการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย และแจ้งความคืบหน้าและผลการดำเนินคดีพิเศษ จากกรณีที่สำนักงานสอบสวนกลาง NBI และอัยการฟินแลนด์ ได้ร้องขอเกี่ยวกับความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แจ้งผลการดำเนินการว่า คดีพิเศษดังกล่าวได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยัง สำนักงาน ป.ป.ช. เมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา เนื่องจากคดีดังกล่าวมีพยานหลักฐานเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้าราชการระดับสูง นักการเมือง จึงอยู่ในอำนาจของ สำนักงาน ป.ป.ช. ที่จะทำการไต่สวนก่อน 


ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ บุกจับกุมตัวคนร้ายชาวจีน "ฉกทรัพย์ชาวอินเดีย" ภายใน 5 ชั่วโมง

ณ. กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เลขที่ 999 หมู่ที่ 1 ถนนสุวรรณภูมิ 4 หนองปรือ อำเภอบางพลี สมุทรปราการ

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2567 

 เวลา 13:30 น.   

พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ม.ล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.1 และข้าราชการตำรวจท่องเที่ยวและชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ทสภ.

ได้ร่วม การแถลงข่าว ผลการปฏิบัติการสายฟ้าแลบ บุกจับกุมตัวคนร้ายชาวจีน ฉกทรัพย์ชาวอินเดีย ภายใน 5 ชั่วโมง

เมื่อ เวลา 13:30 น.

ของวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2567 

ณ กก.3 บก.ทท.1 (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ)


MR.CHAVAN HARSHAD PANDURANG (นายฮาซาด พานดูราน ชาวาน) นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย สัญชาติอินเดีย ได้ถือหนังสือเดินทางเลขที่ z6479305 เข้ามาแจ้งกับตำรวจท่องเที่ยว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยแจ้งว่าตนฯ ได้ขึ้นเครื่องเดินทางมาจาก เมืองบอมเบย์ ประเทศอินเดีย มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน VISTARA เที่ยวบิน UK123

ครั้นเมื่อลงจากเครื่องก็ได้สำรวจกระเป๋าสัมภาระ และพบว่า นาฬิกาโรเล็กซ์ และเงินสดจำนวน 2,800 ดอลลาร์ ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายได้หายไป จึงได้เข้ามาพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เพื่อแจ้งความขอการช่วยเหลือ

หลังจากเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ทท.1 (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) ได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวจึงได้สืบสวนจนทราบว่าก่อนนักท่องเที่ยวจะลงเครื่อง มีคนร้ายลักเอาทรัพย์สินไป ในขณะที่เก็บไว้บนช่องเก็บของ


ของผู้โดยสารที่อยู่เหนือศีรษะบนเครื่องบิน และได้สังเกตุเห็นคนร้ายผู้ก่อเหตุเดินมาเปิดที่ช่องเก็บของที่ผู้เสียหายได้วางกระเป๋าที่เก็บทรัพย์สินไว้

โดยตรงกันกับการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่สายการบิน VISTARA และเมื่อคนร้ายลงจากเครื่องแล้วก็ได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะรู้ตัว ครั้นเมื่อตำรวจท่องเที่ยวได้ทราบถึงพฤติการณ์ และรายละเอียดทั้งหมด จึงได้เร่งออกสืบสวนและได้ประสานงานกับภาคีเครือข่าย อาทิ ฝ่ายรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, เจ้าหน้าที่สายการบิน, เจ้าหน้าที่โรงแรม, แท็กซี่พลเมืองดี ตลอดจนสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุในทันที

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้สืบสวนจนกระทั่งได้ความคืบหน้า ของข้อมูลคนร้ายที่ก่อเหตุและพบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปเข้าพักในโรงแรมไนซ์ รัชดา 416/8 ซอย ประชาราษฎร์บำเพ็ญ 20 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

 ต่อมา เวลา 18:30 น.ในวันเดียวกัน พ.ต.อ.พงษ์พิเชษฐ์ นิลจันทร์ ผกก.3 บก.ทท.1, พ.ต.ท.อภิรุ่ง เพียรมงคล รอง ผกก.3 บก.ทท.1 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.เสกสันติ์ ฐิรเรืองรัตน์ สว.กก.3 บก.ทท.1 พร้อมด้วยชุดสืบสวน ทำการร่วมกันเข้าจับกุมตัว MR.YI XIANGYANG (นายอี้ เซียงหยาง) อายุ 48 ปี สัญชาติจีน ถือหนังสือเดินทางเลขที่ EK5152878 โดยพบผู้ต้องหาเดินลงมาที่บริเวณล็อบบี้โรงแรม จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมขอตรวจค้น พบของกลางซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายที่คนร้ายผู้ก่อเหตุสะพายอยู่ โดยมี  นาฬิกา ยี่ห้อ Rolex รุ่น Sea-Dweller ตัวเรือนสีเงิน หน้าปัดสีดำ Serial number หมายเลขตัวเรือน J389U361 จำนวน 1 เรือน เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 2,800 ดอลลาร์สหรัฐ

จึงได้นำตัวมาดำเนินคดีโดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า "ลักทรัพย์ในท่าอากาศยานหรือในยวดยานสาธารณะ หรือรับของโจร" ก่อนที่จะนำทรัพย์สินดังกล่าว ส่งคืนให้นักท่องเที่ยวชาวอินเดียในขั้นต่อไป

จากนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ให้สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในทุกมิติให้นักท่องเที่ยว โดยกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนนโยบาย ตำรวจท่องเที่ยวเปรียบเสมือนเพื่อนคนแรกเมื่อนักท่องเที่ยวก้าวเท้ามาถึงประเทศไทย ให้ท่องเที่ยวด้วยความความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินจนกระทั้งเดินทางกลับ ตามคติพจน์ตำรวจท่องเที่ยว Your First Friend. #ตำรวจท่องเที่ยว เปรียบเสมือนหนึ่งญาตมิตรในต่างแดน ซึ่งจะช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยว พร้อมทั้งจะคอยช่วยเหลือเมื่อมีปัญหา ฝากถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้เชื่อมั่นว่าทุกสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทย ตำรวจท่องเที่ยวจะอยู่เคียงข้างนักท่องเที่ยว และสร้างความอบอุ่นใจ ดูแลความปลอดภัย อย่างยั่งยืนสืบไป

ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ของประชาสัมพันธ์ไป ยังประชาชนและนักท่องเที่ยว หากพบเห็นผู้กระทำความผิดสามารถแจ้งเหตุได้ที่. สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 หรือ สถานีตำรวจท่องเที่ยวในพื้นที่ทันที ตำรวจท่องเที่ยวยินดีให้บริการ 24 ชั่วโมง

พล.ต.ต. พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. เป็นประธานในพิธีการปล่อยแถว ตำรวจน้ำในสังกัด ดูแลความปลอดภัยพี่น้อง ประชาชน ที่มาลอยกระทงตามแม่น้ำเจ้าพระยา

ณ.สถานีตำรวจน้ำ 2 กองกำกับการ 4 กองบังดับการตำรวจน้ำ


 วันที่ 27 พ.ย. 66 เวลา 14.00 น.

พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน.

เป็นประธานในพิธีการปล่อยแถว

ตำรวจน้ำในสังกัด ดูแลความปลอดภัยพี่น้อง ประชาชน ที่มาลอยกระทงตามแม่น้ำเจ้าพระยา

โดยมี

 พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง

ผบก.รน.,พ.ต.อ.ศราวุฒิ ลิจฉวีราช รอง ผบก.

รน.


พ.ต.อ.ชัยสิทธิ์ ฆารเจริญ ผกก.ฝอ.บก.รน,

พ.ต.อ.ฤทธี เผ่าพันธุ์ ผกก.1 บก.รน.,.พ.ต.อ.

นิรัตน์ ช่วยจิตต์ ผกก.2 บก.รน..พ.ต.อ.ราม

รสหอม ผกก.4 บก.รน.


และข้าราชการตำรวจสังกัด บก.รน.

เข้าร่วมพิธีปล่อยแถวข้าราชการตำรวจ สังกัด กองบังคับการตำรวจน้ำ 

พล.ต.ต.

พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน.


กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ซึ่งเป็นเทศกาลวันลอยกระทง

 ซึ่งจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาร่วมกิจกรรมประเพณีลอยกระทง


ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำ ลำคลอง และแหล่งน้ำต่างๆ ทั้งได้จัดกิจกรรมลอยกระทงในพื้นที่ต่างๆ


ทั่วประเทศ ซึ่งจะมีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางไปท่องเที่ยว และร่วมกิจกรรมลอยกระทง

อีกทั้งมี การนำเรือออกท่องเที่ยวในแม่น้ำ ลำคลอง ทำให้มีการสัญจรทางน้ำของเรือต่างๆ ในแม่น้ำ ลำคลองเป็น

จำนวน มาก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางน้ำ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ได้ ประกอบกับเหล่ามิจฉาชีพถือโอกาสประกอบอาชญากรรม ประทุษร้ายต่อทรัพย์สินของประชาชนและ

นักท่องเที่ยว รวมทั้งการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด อาจเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สิน

ของประชาชนที่ออกมาท่องเที่ยวในงานวันเทศกาลลอยกระทง

ก่อนเดินทางไปที่ท่าน้ำนนท์

เพื่อต้อนรับคณะ  พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.(ปป) และ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะ ออกตรวจการดูแลความ


ปลอดภัยนักท่องเที่ยวในห้วงเทศกาลลอยกระทง พร้อมประชุมติดตามสถานการณ์ กับตำรวจทั่วประเทศ ในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยเริ่มลงพื้นที่ท่าน้ำนนทบุรี ที่เป็นจุดที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวในนนทบุรี มาลอยกระทงเป็นจำนวนมาก 

จากนั้นในเวลา 17.50 น. 


 "รอง ผบ.ตร."พร้อมคณะฯได้ลงเรือเพื่อตรวจตราและสังเกตการณ์ตามจุดสำคัญต่างๆ

ที่มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมลอยกระทง


อาทิ จุดสังเกตการณ์บริเวณท่าเรือรัฐสภา (เกียกกาย) ท่าเรือไอคอนสยาม สะพานพระราม 8 สวนสันติชัยปราการ วัดระฆังโฆสิตาราม ท่ามหาราช วัดอรุณวัดกัลยาณมิตรและจุดที่มีการจัดแสดงพลุและท่าเรือเอเซียทีค



สระแก้ว-พาณิชย์ จังหวัด เข้ม" ลงพื้นที่สำรวจราคาน้ำตาลทรายในห้างดังของจังหวัดสระแก้ว เพื่อควบคุมราคาสินค้า การติดป้าย และราคาสินค้า ป้องกันการกักตุนสินค้า

ในขณะที่ราคาน้ำตาลทรายขาวปกติราคา 24 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 25 บาท 


" ผู้สื่อข่าวรายงาน นางสาวเอื้อนจิตร ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว  พร้อมด้วย ผู้อำนวยการ นักวิชาการ เจ้าหน้าที่พาณิชย์ ลงพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าเพื่อสุ่มสำรวจตรวจ ราคาสินค้าควบคุมน้ำตาลทราย ตามนโยบาย


ของรัฐบาลที่คณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมและมีมติเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 เห็นชอบให้เพิ่ม "น้ำตาลทราย" เป็นสินค้าควบคุม ปี 2566 อีก 1 รายการ และมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม กำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ชาวไร่อ้อยให้ได้รับผลตอบแทนอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตอ้อยในแต่ละช่วงเวลา โดยไม่ส่งผลกระทบ ต่อผู้บริโภค เพื่อป้องกันการกำหนดราคาซื้อ– ขาย หรือเงื่อนไขและวิธีการปฏิบัติทางการค้า ที่ไม่เป็นธรรม และกำกับดูแลสินค้า น้ำตาลทรายให้มีราคาที่เป็นธรรม และปริมาณ ที่เพียงพอ ต่อมาได้พิจารณาให้น้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ซึ่งกำหนดให้น้ำตาลทรายหน้าโรงงานยังคงมีราคาเท่าเดิม และควบคุมราคาขายปลีกน้ำตาลทรายขาว อยู่ที่กิโลกรัมละ 24 บาท และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ อยู่ที่กิโลกรัมละ 25 บาทโดยห้างสรรพสินค้าทั้ง 2 แห่งในจังหวัดสระแก้วได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการติดป้ายแสดงสินค้าอย่าง

ชัดเจน " แต่จำกัด จำนวนการซื้อน้ำตาลทราย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม แก่ผู้บริโภคอย่างทั่วถึง

"ด้านนางสาวเอื้อนจิตรช่วยนก พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว กล่าว การลงพื้นที่ตรวจราคาสินค้าภายในห้างสรรพสินค้า นั้นเพื่อเป็นการสำรวจราคาสินค้าว่ามีการปรับขึ้นหรือปรับลดลง พร้อมขอความร่วมมือให้การจำหน่ายน้ำตาลทราย และสินค้าควบคุม เป็นไปตามที่รัฐบาลประกาศ ให้ผู้ประกอบการ ติดป้ายราคา สินค้าให้ผู้บริโภคเห็นอย่างชัดเจนเป็นราคา


ปัจจุบันทั้งนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้ว จะสุ่มออกตรวจ ราคาสินค้าควบคุมอย่างต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบค่าครองชีพ ของ พี่น้อง ประชาชน รวมทั้งป้องกันการฉวย


โอกาส ขึ้นราคาสินค้า และการกักตุนสินค้า ซึ่งจะมีความผิดตามกฎหมาย และบังคับใช้อย่าง

เคร่งครัด...
ภาพ/ข่าว นายยุทธนาพึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว

พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รรท.ผบช.ทท.เปิดงานฮาโลวีนปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวห่วงใย พร้อมให้บริการ

เวลา 19:00 น.

วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2566

 ณ ถนนข้าวสาร แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

 นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ


รรท.ผบช.ทท., พล.ต.ต.ม.ล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.1, เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ทท.1,

พ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร รอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม, นายสุพจน์ วงศ์จรัสรวี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายโกศล สิงหนาท ผอ.เขตพระนคร, นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร, คุณธนวินท์ ภิญโญโสภณ เลขา อปพร.กทม.ร่วมในพิธีฯ พร้อมกันนี้ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม, ตำรวจท่องเที่ยว, 191, อคฝ., ตม., เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร ร่วมในการปฏิบัติหน้าที่ฯ

     จากนโยบาย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมลผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในวันฮาโลวีนนั้น


พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มีสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมของกำลังพล เพื่อปฏิบัติงานดูแลความปลอดภัยในบริเวณสถานที่จัดงานฮาโลวีนทั่วประเทศ อย่างเข้มแข็ง และยังได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ทำการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้และความ

เข้าใจ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในสื่อทุกแขนง

     และในวันนี้ งานฮาโลวีน Khaosan Halloween 2023 ที่บริเวณถนนข้าวสาร ทางตำรวจท่องเที่ยวได้จัดกำลังพลประจำจุดคัดกรอง สายตรวจเดินเท้า และเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง โดย พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ลงตรวจพื้นที่ และตรวจดูการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังได้เข้าพบปะพูดคุยกับนักท่องเที่ยวที่มาเฉลิมฉลองค่ำคืนฮาโลวีน โดยประชาสัมพันธ์ ให้คำแนะนำด้านความปลอดภัยด้วย

     พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำฯ กล่าวว่า "ผม และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวทุกนาย มีความห่วงใยและปราถนาดี อยากให้นักท่องเที่ยวทุกๆท่าน ได้ท่องเที่ยวในวันฮาโลวีนในค่ำคืนนี้อย่างสนุก และ


ปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวเรามีความพร้อมเป็นอย่างยิ่ง ที่จะดูแลทุกท่าน และอยากให้คิดเสมือนประหนึ่งว่าตำรวจท่องเที่ยวคือเพื่อนคนแรกของคุณ ทั้งนี้ขอความร่วมมือกันให้หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัย และดื่มไม่ขับ หากต้องการขอความช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุใดๆ ท่านสามารถแจ้งได้กับตำรวจท่องเที่ยวหรือโทร 1155 สายด่วนของเรา เราพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ครับ" พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวฯ
ภาพ/ข่าว
พี่ใหญ่ นิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน

พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รรท.ผบช.ทท.พร้อมคณะ เดินทางเข้าแหล่งท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว


วันที่ 28 ตุลาคม 2566 เวลา 10:00 น. 

 พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รรท.ผบช.ทท.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท.,


พล.ต.ต.ม.ล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.สมชาย ธีรภัทรไพศาล ผกก.กก.2 บก.ทท.1, เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว, น.ส.วิภาวี คมคาย นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการพิเศษ ทกจ.อยุทธยา, นางนิตยา เมธีวุฒิกร รอง ผอ.ททท จว.อยุทธยา, นายมานัส ทรัพย์มีชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เดินทางเข้าตรวจเยี่ยม และมอบนโยบาย

ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าที่ช่วยเหลือตำรวจท่องเที่ยวที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ดูแลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยในวันนี้ พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รรท.ผบช.ทท.และคณะฯ ได้เข้าตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางศาสนา 2 สถานที่ด้วยกัน ประกอบด้วย วัดใหญ่ชัยมงคล

และ วัดไชยวัฒนาราม โดยมี ว่าที่ พ.ต.ท.ณัฐภัทร สุขชื่น สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.1 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือตำรวจท่องเที่ยวที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ คอยให้การต้อนรับ

     ทั้งนี้เพื่อเป็นไปตามนโยบายจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำ กำชับให้ดูแลความปลอดภัยและให้ช่วยเหลืออำนวยความสะดวก รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลความรู้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อจะได้มีความรู้สึกว่าได้รับปลอดภัย และอุ่นใจในการที่จะมาท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวในทุกสถานที่ของเมืองไทย

 พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รรท.ผบช.ทท.ได้มอบเครื่องบริโภคให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือตำรวจท่องเที่ยว ไว้เพื่อเป็นการบำรุงขวัญและสร้างกำลังใจให้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยวสืบไป

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสมุทรปราการ บุกจับสองสามีภรรรยาชาวกัมพูชาโพสต์ขายเครื่องสำอางค์ไม่มี อย.ในการจดแจ้ง มีรายได้หลักแสน

หลังจากที่ชาวกัมพูชาได้โพสต์ขายเครื่องสำอางค์ไม่มี อย.ในการจดแจ้ง จำหน่าย ทาง facebook และ tiktok และ นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย


เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง


สมุทรปราการ ประสานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการและสำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรปราการ ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นห้องพักอาศัยที่อาคารคอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 

ทั้งนี้สืบเนื่องจากการชุดสืบสวนทราบว่า ที่ห้องพักดังกล่าว มีการนำเครื่องสำอางค์ที่ไม่ได้มีการจดแจ้งทะเบียนและไม่มีเครื่องหมาย อย เข้ามาเก็บ และจำหน่าย ทางออนไลน์โดยมีผู้ขายเป็นแรงงานต่างด้าว สัญชาติกัมพูชาเป็นผู้จำหน่าย ซึ่งจะทำการ โพสต์จำหน่าย ทาง facebook และ tiktok ส่วนมากลูกค้าจะเป็นแรงงานกัมพูชา ที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย ด้วยกัน


โดยสินค้าที่นำมาจำหน่ายจะเป็นพวกเครื่องสำอางที่นำเข้า มาจากกัมพูชาและจีน ไม่มีการจดเครื่อง หมายการค้าและ อย 

จากการ เข้าตรวจค้น พบ นางสาวธิดาและนายบิ๊ก 2 สามีภรรยาชาวกัมพูชา ผู้ต้องหา และสินค้าเครื่องสำอางจำนวน มาก ในห้องพัก ให้การรับสารภาพว่า ได้สั่งนำเข้าสินค้า เครื่องสำอางค์จากประเทศกัมพูชา เข้ามาจำหน่ายทางออนไลน์ โดยมีรายได้เดือนละ หลักแสนบาท และอาศัยอยู่ในคอนโดซึ่งยากแก่การเข้าตรวจสอบ 

หลังจากสอบสวนนางสาวธิดาและนายบิ๊ก 2 สามีภรรยาชาวกัมพูชา ผู้ต้องหา โดยให้การว่าระยะหลังมานี้ยอดขายดีมากจึงนำสินค้าเข้ามาสต๊อกไว้ในห้อง จำนวนมากเพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้าทั้งออนไลน์และขายตรง


เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการอนุญาตสิ้นสุด ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ทำงานและจำหน่ายสินค้าซึ่งไม่ได้มีการแจ้งจดทะเบียน ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


กรมศุลกากร สกัดจับ เฮโรอีน โคคาอีน น้ำมันดีเซล ลักลอบนำเข้าและส่งออกนอกประเทศ

 วันที่21 กรกฎาคม 2566 

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี


 ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดี

กรมศุลกากร ได้ให้ความสำคัญในภารกิจปกป้องสังคม ให้ปราศจากการลักลอบนำเข้าและส่งออก

สิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด จึงให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกรมศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษในการป้องกัน สกัดกั้นยาเสพติดให้โทษ และบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ป.ป.ส. บช.ปส. ศรภ.


หน่วยงานศุลกากรของไทยในต่างประเทศ ศุลกากรต่างประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถานทูตต่าง ๆ องค์การตำรวจสากล (Interpol) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 

(Drug Enforcement Administration: DEA) เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าว ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือและดำเนินงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ  และเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 กรมศุลกากรจับกุมการลักลอบ นำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร และเตรียมส่งออกไปนอกราชอาณาจักร มีรายละเอียดังนี้ กรมศุลกากร ตรวจยึดเฮโรอีนน้ำหนักรวม 13.945 กิโลกรัม ปลายทางประเทศ ออสเตรเลีย ณ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ของกองสืบสวนและปราบปราม 


ภายใต้การกำกับดูแลของนายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ รองอธิบดี รักษาการที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม และนายจักกฤช อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับชุดปฏิบัติการ AITF (AIRPORT INTERDICTION TASK FORCE) ประกอบด้วย กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ได้ทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงในการลักลอบส่งของต้องห้ามต้องกำกัดออกนอกราชอาณาจักร จึงทำการตรวจสอบพัสดุลงทะเบียนระหว่างประเทศ สำแดงชนิดสินค้าเป็น WaistBands มีชื่อผู้รับ -  ผู้ส่งเดียวกัน ต้นทางมาจากเชียงใหม่ ปลายทางรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย จำนวน 40 ห่อ น้ำหนักรวม 69.379 กิโลกรัม ตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ชุกซ่อนภายในเข็มขัด พยุงหลัง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 13.945 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 41.84 ล้านบาทต่อมา กรมศุลกากรได้ยึดโคคาอีนน้ำหนัก 189 กรัม ต้นทางสาธารณรัฐอาเจนตินา มูลค่ากว่า 567,000 บาท ณ คลังสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบของเร่งด่วนระหว่างประเทศต้องสงสัย ว่ามีการซุกซ่อนยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร สำแดงชนิดสินค้าเป็น  KEYCHAINS ต้นทางสาธารณรัฐอาเจนตินา พบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน ในถุงพลาสติก ปิดด้วยเทปกาวสีน้ำตาล ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องกระดาษ ซึ่งได้มีการดัดแปลงให้สามารถใส่สิ่งของดังกล่าวได้ จำนวน 2 ชิ้น น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 189 กรัม  มูลค่ากว่า 567,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 กรณี เป็นการกระทำผิดตามมาตรา 242 , 244 ประกอบมาตรา 252 ซึ่งเป็นของอันพึงต้องริบ ตามมาตรา 166 และ มาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 จึงส่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป  นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน ( 20 กรกฎาคม 2566)


กรมศุลกากรได้จับกุมการลักลอบนำน้ำมันดีเซลเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 10,000 ลิตร มูลค่ากว่า 300,000 บาท ได้ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งกรมศุลกากรได้เข้มงวดและให้ความสำคัญในเรื่องการลักลอบนำน้ำมันดีเซลเข้ามาในราชอาณาจักรตลอดมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามเคลื่อนที่เร็ว กองสืบสวนและปราบปราม ภายใต้การกำกับดูแลของนายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ภายใต้การกำกับดูแลของนายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 และด่านศุลกากรท่าอากาศยานหาดใหญ่ เข้าตรวจค้น ในพื้นที่ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เนื่องจากได้รับแจ้งว่า อาจจะมีการลักลอบ ขนถ่ายน้ำมันดีเซล ที่ยังไม่ได้เสียภาษี หรือผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง  หลังจากที่เข้าไปในพื้นที่ พบสินค้าประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดดีเซล บรรจุอยู่ในถังขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 10 ถัง รวมจำนวน 10,000 ลิตร มูลค่ากว่า 300,000 บาท เบื้องต้นไม่มีหลักฐาน หรือเอกสารผ่านพิธีการศุลกากรมาแสดง  การกระทำดังกล่าว เป็นความผิด มาตรา 242 , 246 และมาตรา 252  ซึ่งเป็นของ

อันพึงต้องริบ ตามมาตรา 166 และ มาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 จึงได้ยึดของกลางดังกล่าวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

The BEST IMPEX นำเข้า-ส่งออก ชิปปิ้ง ตัวแทน ออกของ กดตรงรูปภาพได้เลบครับ👇👇👇

น้ำดื่ม 4 เหล่าทัพ

น้ำดื่ม 4 เหล่าทัพ
ทุกหยดใส ใส่ใจ เพื่อคุณ

อยู่ระหว่าง ทดสอบสัญญาณเสียง วิทยุออนไลน์

อยู่ระหว่าง ทดสอบสัญญาณเสียง วิทยุออนไลน์
กด👇 Play ฟัง

ฟอร์มูล่าม้ง' สนั่นดอย 👆👆👆 กดชมคลิกตรงรูปภาพ ได้เลยครับ👆👆👆 หรือเรียกกันติดปากว่า "ฟอร์มูล่าม้ง" เป็นภูมิปัญญาของชาวเขาที่ดัดแปลงมาจากรถเข็นผลผลิตทางการเกษตร แต่ปัจจุบันรถล้อเลื่อนไม้ถูกแทนที่ด้วยรถยนต์และจักรยานยนต์ไปแล้ว เหลือเพียงการละเล่นและแข่งขันกันเพื่อความสนุกสนานในหมู่เพื่อนฝูงกลุ่มเล็กๆภายในหมู่บ้าน และขยายเป็นการแข่งขันกันระหว่างหมู่บ้าน