สมุทรปราการ พิธีน้อมรำลึก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี " สมเด็จย่า " ซึ่งมีความผูกพันธ์กับตำรวจน้ำ ได้รับถวายงานอย่างใกล้ชิด

 พิธีน้อมรำลึก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี " สมเด็จย่า " ซึ่งมีความผูกพันธ์กับตำรวจน้ำ ได้รับถวายงานอย่างใกล้ชิด 

 เมื่อวันที่ 21 ต.ค.68 เวลา 10.30 น.

พล.ต.ต.เศรษฐสิริ นิพภยะ ผบก.รน.(ประธานในพิธี) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิระศักดิ์ แย้มแสง ผชพ.(สบ 6) บก.รน.,พ.ต.อ.วัลลพ พวงผกา รอง ผบก.รน.,พ.ต.อ.ราม รสหอม รอง ผบก.รน.,พ.ต.อ.นิรัตน์ ช่วยจิตต์ รอง ผบก.รน.,พ.ต.อ.ฤทธี เผ่าพันธุ์ ผชช.(สบ 5) บก.รน. และข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.รน. ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีน้อมรำลึก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี " สมเด็จย่า " ซึ่งมีความผูกพันธ์กับตำรวจน้ำ ได้รับการถวายงานอย่างใกล้ชิด จึงมีการจัดพิธีและกิจกรรมชมนิทรรศการเพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ "สมเด็จย่า" โดยมี พ.ต.อ.สาธร สุขส่ง ผบ.เรือ(สบ4) กรต.บก.รน.,พ.ต.อ.นมัสการ นิลคำแหง ผบ.เรือ(สบ4) กรต.บก.รน.,พ.ต.ท.สัญญา พุ่มโพธิ์ทอง ต้นปืน(สบ3) กรต.บก.รน. ให้การต้อนรับ

ณ เรือลพบุรีราเมศวร์ (1803) และ เรือดำรงราชานุภาพ (1802) ท่าเทียบเรือ บก.รน. 

ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ณ.บริเวณท่าเทียบเรือแม่น้ำเจ้าพระยา กองบังคับการตำรวจน้ำ ที่ผ่านมา 

ผบช.ภ.2 สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหน่วย เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่

 ผบช.ภ.2 สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหน่วย เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 เวลา 09.09 น. 

พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) พร้อมด้วย คุณขนิษฐา สุรเชษฐพงษ์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ 

โดยมี พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.เสถียร บุญค้ำ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.เอกภพ อินทวิวัฒน์ รอง ผบช.ภ.2 ผู้บังคับการ, รองผู้บังคับการ, ผู้กำกับการ และข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมให้การต้อนรับ

เวลา 09.09 น. สักการะ พระพุทธโสธร ณ หอพระพุทธโสธร ตำรวจภูธรภาค 2

 เวลา 09.19 น. พิธีสักการะ ศาลพระพรหม ณ วิหารพระพรหม ตำรวจภูธรภาค 2.

 เวลา 09.39 น. สักการะ ศาลพระภูมิ และศาลตา–ยาย ประจำตำรวจภูธรภาค 2

ภายหลังพิธีสักการะ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้จัดเลี้ยงอาหารแก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดและผู้ที่มาร่วมแสดงความยินดี บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น

****************""****************""************"

บิ๊กก้องสั่งตำรวจน้ำเชียงรายออกช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

🔵กองกำกับการ 12 กองบังคับการตำรวจน้ำ(ตำรวจน้ำเชียงราย) ออกช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในเขตพื้นที่ อ.เทิง จว.เชียงราย 

      เรียนผู้บังคับบัญชา

🔵วันที่ 24 ก.ค. 68 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.- 20.00 น.(ยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจ)

🔵ภายใต้การอำนวยการของ 

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.

พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบช.ก.

พล.ต.ต.เศรษฐสิริ นิพภยะ ผบก.รน.,พ.ต.อ.วัลลพ พวงผกา รอง ผบก.รน.,พ.ต.อ.ราม รสหอม รอง ผบก.รน.

พ.ต.อ.อนรรฆ ประสงค์สุข ผกก.12 บก.รน.,พ.ต.ท.ตรีเพชร พิกุล รอง ผกก.12 บก.รน.

พ.ต.ท.วิเชียร ชัยมงคล รอง ผกก.12 บก.รน.,พ.ต.ท.ธณยศ พัฒนชัย รอง ผกก.12 บก.รน.

🔵ด้วยได้รับการประสานจาก นายครรชิต ชมภูแดง

หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเชียงราย ขอรับการสนับสนุน กำลังพลจาก กก.12 บก.รน. และเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย เพื่อใช้ในภารกิจเคลื่อนย้ายทรัพย์สินผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.เทิง จว.เชียงราย

🔵จึงสั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ต.ภาณุวัฒน์ ชัยสาคร สว.ส.รน.2 กก.12 บก.รน. พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วตำรวจน้ำ ส.รน.2 กก.12 บก.รน.(ตำรวจน้ำเชียงของ) จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ นำเรือท้องแบน พ.72 พร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย 

🔵ออกช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในการเลี้ยงปศุสัตว์ ในเขตพื้นที่ บ้านห้วยไคร้ หมู่ 6 ต.เวียง อ.เทิง จว.เชียงราย 

🔵ช่วยเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยง(สุกร) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประมาณ 500 ตัว(ณ เวลา 20.00 น.) จากประมาณ 1,000 ตัวไปสู่พื้นที่ปลอดภัย ระยะทางในการขนย้ายประมาณ 2 กิโลเมตร จากถนนลงไปประมาณ 20 เมตร ระดับน้ำประมาณ 1 เมตรและมีแนวโน้มสูงขึ้น จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งคืน เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อทรัพย์สินของประชาชน

      ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

Anan Taekwondo Championship 6Th

 Anan Taekwondo Championship 6Th 

กลับมาอีกครั้ง กับการแข่งขันกีฬาเทควันโด ชิงแชมป์ ในระดับยุวชน เยาวชนและประชาชน 

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 เวลา 09:00 น.

ณ. ศูนย์การค้า ธัญญาปาร์ค ศรีนครินทร์

 

โดยมีครูอนันต์ ผิวดี เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ และมีสโมสรร่วมส่งนักกีฬาลงแข่งขันทั้งหมด 40 สโมสร และนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดประมาณ 400 คน โดยมีการจัดการแข่งขัน 3 ประเภท คือ KYORUGI (ต่อสู้) POOMSAE กลุ่ม และเดี่ยว เน้นความสวยงาม แข็งแรง และฝึกทักษะป้องกันตัว  และ SPEED LEVEL SKILL เป็นการใช้ทักษะความเร็ว โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดการแข่งขันครั้งที่ 6 ของครูอนันต์ ผิวดี เพื่อพัฒนาทักษะและศักยภาพของนักกีฬา ให้นักกีฬาได้แสดงออกถึงทักษะ ฝีมือ และความสามารถในการต่อสู้เรียนการต่อสู้และกฎกติกาและส่งเสริมการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องอย่างมีเป้าหมาย กิจกรรมการจัดการแข่งขันยังช่วยส่งเสริมคุณธรรมและจิตวิญญาณของนักกีฬา (Sportmanship) โดยปลูกฝังน้ำใจนักกีฬา ความมีระเบียบวินัย การเคารพคู่ต่อสู้และผู้ตัดสิน (กรรมการ) พร้อมทั้งเสริมสร้างความอดทน มีสติ และรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย 

เพื่อให้นักกีฬานำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งในโรงเรียน ห้องเรียน และชุมชน และการจัดการแข่งขันยังเป็นเวทีแข่งขันเพื่อคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาที่มีความสามารถ เพื่อเป็นตัวแทนเข้าแข่งขันในระดับสูงขึ้น เช่น ระดับจังหวัด ประเทศ หรือระดับนานาชาติ รวมถึงได้ส่งเสริมและพัฒนาวงการเทควันโด โดยกระตุ้นความสนใจและการมีส่วนร่วมของเยาวชนและประชาชนโดยพัฒนามาตรฐานการแข่งขันและการฝึกสอนเพื่อนำไปสู้เป้าหมายของนักกีฬา พร้อมทั้ง

สร้างความสัมพันธ์และความสามัคคี เปิดโอกาสให้นักกีฬาจากต่างพื้นที่ได้พบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความสามัคคีในชุมชนหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกีฬาได้มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ณ จุดการจัดกิจกรรม

     และที่สำคัญในการพัฒนาเด็กๆให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ ไม่ได้เกิดจากความสามารถของตัวเด็กเพียงลำพังเท่านั้น แต่ยังมี สิ่งที่สำคัญยิ่งอยู่เบื้องหลัง นั่นคือ ผู้ปกครอง ครู-อาจารย์ผู้ฝึกสอนที่ให้ความร่วมมือกัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในความสำเร็จของบุตรหลานทั้งทางร่างกาย จิตใจ และวินัยของนักกีฬาอย่างแท้จริง  ผู้ปกครองควรส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและสนามกีฬา ควบคู่กันไป และเป็นกำลังใจเพื่อใหบุตรหลานใช้เวลาว่างสร้างศักยภาพให้ตัวเอง เพื่อความสำเร็จ

✌️กิจกรรมในทุกวันที่สดใสเริ่มได้จากครอบครัว

รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือพื้นฐานของนักกีฬา

กรมศุลกากรจับกุม ชายสัญชาติแคนาดา ซุกเฮโรอีน เตรียมออกนอกประเทศ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

กรมศุลกากรจับกุม ชายสัญชาติแคนาดา พยายามลักลอบนำเฮโรอีนออกนอกประเทศ น้ำหนักรวม 3,235 กรัม มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซุกซ่อนอย่างแนบเนียนในกระเป๋าเดินทาง และกระเป๋าถือสตรี เตรียมมุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติไต้หวันเถาหยวน สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) 

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า วันนี้ (30 มิถุนายน 2568) เวลา 07.50 น. กรมศุลกากรได้ทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงในการลักลอบนำยาเสพติดให้โทษออกนอกราชอาณาจักร โดยตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้โดยสารของสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ (CHINA AIRLINES) เดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติไต้หวันเถาหยวน สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พบบุคคลที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักร จึงได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยทำการตรวจกระเป๋าสัมภาระ ณ จุดส่งกระเป๋าเกินขนาด 

จากการตรวจสอบภาพเอกซเรย์กระเป๋าเดินทางล้อลาก สีดำทรงอ่อน มีลักษณะความหนาผิดปกติ เจ้าหน้าที่ศุลกากร จึงเปิดตรวจสัมภาระภายในกระเป๋าซึ่งบรรจุเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าถือสตรีสีน้ำตาลและสีดำ เมื่อตรวจสอบบริเวณผนังกระเป๋าล้อลากดังกล่าว พบห่อผ้าสีเทาพันด้วยเทปสีดำ ซุกซ่อนอยู่ภายใน เมื่อเปิดออกพบกระดาษคาร์บอนและพลาสติกใส ด้านในบรรจุผงสีขาว จึงนำผงสีขาวทดสอบด้วยน้ำยาเคมี ONCB051 MARQUIS REAGENT ปรากฏว่าทำปฏิกิริยากับน้ำยาเคมีทดสอบจากใสไม่มีสีเปลี่ยนเป็นสีม่วง จึงเชื่อได้ว่าเป็นยาเสพติดให้โทษ

ในประเภท 1 (เฮโรอีน) 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฯ ยังได้ตรวจค้นกระเป๋าถือสตรี อีก 2 ใบ พบว่าบริเวณผนังกระเป๋า มีรอยเย็บใหม่ทั้ง 2 ด้าน และมีลักษณะหนาผิดปกติ เจ้าหน้าที่ฯ จึงกรีดบริเวณผนังกระเป๋าออก พบสิ่งผิดปกติมีลักษณะเป็นห่อสีเทาซุกซ่อนอยู่ภายใน ด้านในพบผงสีขาว จึงนำมาทดสอบด้วยน้ำยาเคมี ONCB051 MARQUIS REAGENT อีกครั้ง เชื่อได้ว่าเป็นเฮโรอีน เช่นกัน รวมของกลางที่ตรวจพบ เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เฮโรอีน) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 3,235 กรัม มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

การกระทำดังกล่าว เป็นการพยายามลักลอบนำยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เฮโรอีน) ออกนอกราชอาณาจักรและมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด อันเป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 252 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 167 

แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

 โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า สำหรับผลการดำเนินการตรวจยึดยาเสพติดของกรมศุลกากร ประจำปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – 30 มิถุนายน 2568) โดยสามารถตรวจยึดยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวน 28 คดี น้ำหนักรวมประมาณ 97.87 กิโลกรัม