เลาะรั้วช่วยชาวบ้าน
เจ้าของที่กับไวยาวัจกรวัดและชาวบ้านโวย เทศบาล
หลังยึดไม้พยูงแนวเขตวัด
วันที่ 17 กพ. 63เวลา17.30น.
นายพิชัย นรศรี ทนายความ ได้นำนางหนูนิด แก้วดี อายุ 49 ปี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.คเนท์ พันนุมา รอง ผกก. สส.(สอบสวน) สภ.นำปลีก ว่า. ได้มีพนักงานเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลน้ำปลีกได้นำรถแทคเตอร์และนำเลื่อย จอบมาขุดตอไม้พยูงที่บริเวณในรั้ววัดโนนสำโรง หมู่ 10 ต.น้ำปลีก
อ. เมือง จ. อำนาจเจริญ
หวั่นเกรงว่าทางเทศบาลอาจจะนำไปทำลายหลักฐาน
จึงพาเจ้าตัวมาแจ้งไว้
เพื่อเป็นหลักฐาน
ทางด้านนาย อิสรา แก้วดี อายุ 52 ปี สามีของนางหนูนิด บอกว่าไม้พยุงต้นดังกล่าวอยู่ในเขต โฉนดที่ดินของนางหนูนิด แต่บริเวณดังกล่าวอยู่ติดกับวัด
ด้านนายชนินทร์ เตาเงิน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลน้ำปลีกกล่าวว่าไม้ดังกล่าวอยู่ในเขตถนนสาธารณะเทศบาลจริงและยืนยันว่าทางเทศบาลมีหลักฐานและ ต้นไม้ดังกล่าวจะต้องตกเป็นของหลวง
เลาะรั้วช่วยชาวบ้าน
เลาะรั้วช่วยชาวบ้าน
เลาะรั้วช่วยชาวบ้าน
นายพิชัย นรศรี ทนายความ บอกว่าสาเหตุที่มาแจ้งตำรวจไว้เป็นหลักฐานในครั้ง เรื่องเดิมมีอยู่ว่าไม้พยุงขนาด 3 คนโอบสูงประมาณ 20 เมตรอายุนับ 100 ปี
ที่อยู่ในเขตรั้ววัดโนนสำโรง
ถูกพายุพัดโค่นล้ม ต่อมาได้มีโจรเข้าไปลักรอบตัดขโมยเอาส่วนโคลนไป 1 ท่อนทางเทศบาลได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.ณรงค์ชัย วงค์ละคร สว.(สอบสวน)และได้ร่วมกับเทศบาล ตำรวจป่าไม้นำเครื่องมือไปตัดทอนเป็นท่อนๆได้จำนวน 19 ท่อนแล้วนำไปเก็บไว้ที่หน่วยป้องกันเทศบาลน้ำปลีก ต่อมาทางวัดและนางหนูนิด เห็นว่าการที่เทศบาลอ้างว่าไม้ดังกล่าวเป็นของเทศบาลไม่ถูกต้อง เพราะบริเวณต้นไม้พยุงดังกล่าวเป็นที่กรรมสิทธิ์โฉนดที่ดินของนางหนูนิตมอบให้แก่วัดด้วยวาจาตั้งแต่ปี พศ. 2530 เพื่อขยายด้านหลังเมรุ
TV ออนไลน์
ต่อมาทาง สภ.น้ำปลีกจึงได้นำไม้มาเก็บไว้ที่ สภ. และส่งต่อไปเก็บไว้ที่ อจ. 1 สำนักงานป่าไม้อำนาจเจริญ ซึ่งตนได้ทำหนังสือไปยังที่ดินจังหวัดและป่าไม้ ให้ออกมาตรวจสอบว่าที่ดินดังกล่าวจะอยู่ในเขตถนนสาธารณะเทศบาลหรือที่ดินของนางหนูนิดที่บริจาคให้กับวัดโนนสำโรงในวันที่ 20 กพ. 63 ที่จะมาถึงเพื่อจะพิสูจน์ว่าไม้ดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของใคร
ข่าว/ภาพ มนัส.เอมโอด








