เลาะรั้ว4เหล่าทัพ
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.64
เวลา 13.00 น.
ที่ ศพดส. ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ติดตามการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์ลวงคนไทยไปทำงานปท.เพื่อนบ้าน โดยมีพล.ต.ต.พิเชษฐจิระนันตสิน รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ร่วมในการบรรยายพร้อม สอบสวนผู้ต้องหาตามหมายจับ กรณีที่เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิเชษฐจิระนันตสิน รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ภ.จว.เชียงราย , บก.สส.ภ.5 และ ศพดส.ภ.5 พร้อมหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
เลาะรั้ว4เหล่าทัพ
เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุประมาณ 25 ปี ชาวจังหวัด ภูเก็ต ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 212/2564 ลง 11 พฤศจิกายน 2564 โดยถูกจับกุมตัวที่ ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จว.ประจวบคีรีขันธ์ ในความผิดฐาน “ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป หรือโดยสมาชิกขององค์กรอาชญากรรม เพื่อกระทำการค้ามนุษย์แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการฯ” อัน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556
เลาะรั้ว4เหล่าทัพ
ทางพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อติดตามคดีที่เกี่ยวของกับการค้ามนุษย์ ซึ่งตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้ตระหนักถึงปัญหาการค้ามนุษย์ โดยให้ดำเนินการปราบปรามจับกุมเครือข่ายที่กระทำความผิดคดีค้ามนุษย์ในทุกรูปแบบ เพื่อยกระดับประเทศไทยให้ดีขึ้น โดยในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ของสหรัฐอเมริกา หรือ TIP Report ประจำปี 2565 ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในกลุ่มที่ 2 เป็นบัญชีรายชื่อประเทศที่ ต้องจับตามอง หรือ Tier 2 Watch List สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้มีการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ และสืบสวนขยายผลอย่างจริงจัง โดยกำชับ ให้ทุกหน่วยในสังกัด ต้องหาข่าวเชิงลึก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาพบเบาะแสว่ามีขบวนการลักลอบพาคนชาวไทยไปบังคับใช้แรงงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมให้แต่งตั้งคณะสืบสวนสอบสวนเพื่อทำการจับกุมและขยายผลเครือข่ายดังกล่าว ทั้งนี้ในเคสนี้เป็นกระบวนการค้าแรงงานที่เกี่ยวข้องกับประเทศเพื่อนบ้านมีความละเอียดในเรื่องของกฏหมาย จึงได้กำชับเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ ศพดส.ภ.5 ทำการสืบสวนขยายผลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลและจับกุมเครือข่าย รวมไปถึงผู้สั่งการ และผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
